NFT – ความหมายและเหตุผลที่คนสนใจ
เมื่อพูดถึง NFT, โทเคนที่ไม่สามารถแทนที่กันได้และบันทึกบนบล็อกเชนเพื่อยืนยันกรรมสิทธิ์ของสินทรัพย์ดิจิทัล หลายคนคงนึกถึงงานศิลปะออนไลน์หรือของสะสมเกม แต่จริง ๆ แล้ว NFT เป็นส่วนหนึ่งของ บล็อกเชน, ระบบฐานข้อมูลแบบกระจายที่รักษาความปลอดภัยและความโปร่งใสโดยไม่มีศูนย์กลาง ซึ่งทำให้ทุกการทำธุรกรรมตรวจสอบได้ตลอดเวลา อีกด้านหนึ่ง สัญญาอัจฉริยะ, โค้ดที่ทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนดบนบล็อกเชน ควบคุมการสร้างและการโอน NFT อย่างชัดเจน การรวมกันของสามสิ่งนี้ทำให้ NFT กลายเป็นเครื่องมือที่สามารถบันทึกและโอนทรัพย์สินดิจิทัลได้อย่างเชื่อถือได้
เหตุผลที่ NFT กำลังเปลี่ยนแปลงหลายอุตสาหกรรม
NFT ไม่ได้มีไว้แค่ศิลปินเท่านั้น แม้ว่า Digital Art จะเป็นการใช้ NFT ที่โดดเด่นที่สุด แต่เทคโนโลยีนี้ยังขยายสู่ คริปโตเคอร์เรนซี ที่ใช้ในการซื้อขายหรือเป็นส่วนของระบบเงินดิจิทัล นอกจากนี้ การทำ Tokenization ของสินทรัพย์จริง เช่น ที่ดิน หรือ ลิขสิทธิ์เพลง ทำให้สินทรัพย์เหล่านั้นสามารถแบ่งเป็นส่วนย่อยและซื้อขายได้บนตลาดเปิด การพัฒนา Layer 2 scaling บนบล็อกเชนช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรม ทำให้ NFT สามารถใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเกม การเก็บสะสม หรือการให้สิทธิพิเศษแก่สมาชิก การเชื่อมต่อระหว่าง NFT กับ DeFi (การเงินแบบกระจาย) ก็กำลังเติบโต ทำให้ผู้ถือ NFT สามารถใช้เป็นค้ำประกันในการกู้ยืมหรือรับดอกเบี้ยได้อีกด้วย
ในส่วนของบทความต่อไปนี้ คุณจะได้พบกับการอธิบาย Layer 2 scaling ที่ทำให้ NFT ทำงานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น, วิธีป้องกันการโจมตีแบบ Sandwich Attack ที่อาจกระทบต่อตลาด NFT, และเคล็ดลับการเลือกผ้าม่านที่ใช้เทคโนโลยี Smart Home ที่อาจรวมกับ NFT เพื่อให้คุณควบคุมอุปกรณ์ได้ด้วยตารางโทเคนใหม่ ๆ ทั้งหมดนี้ทำให้คุณเห็นภาพรวมของ NFT ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงการประยุกต์ใช้จริงในชีวิตประจำวัน เตรียมพร้อมแล้วหรือยัง? มาดูกันต่อว่าแต่ละบทความจะช่วยให้คุณเข้าใจลึกซึ้งและนำไปใช้ได้อย่างไร