
ถ้าคุณคิดว่าร้านขายยายังเป็นแค่ร้านเล็ก ๆ ที่มีเภสัชกรยืนรอลูกค้าซื้อยาเหมือนเมื่อสิบปีก่อน คุณจะต้องแปลกใจ เพราะตอนนี้ร้านขายยากำลังเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแทบจะทุกอย่างตั้งแต่ขั้นตอนสั่งซื้อยา คัดกรองโรค จัดการสต็อกยา ไปจนถึงให้คำปรึกษาสุขภาพแบบเรียลไทม์ หลายร้านไม่ต้องมีชั้นวางยาแบบเดิมแล้วด้วยซ้ำ แค่คลิกเดียวก็อาจจะได้นัดปรึกษาเภสัชกร หรือแม้แต่แพทย์จากในมือถือเลย
โลกใหม่ของร้านขายยาในยุคดิจิทัล
สมัยก่อนเวลาเราจะซื้อยา ส่วนมากก็ต้องเดินไปที่ร้าน หยิบคิว รอคุยกับเภสัชกร แต่ตอนนี้อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไวมากจนตามไม่ทัน แค่เข้าแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ไม่กี่วินาทีก็สั่งยาได้ ถ้าอยากเช็คว่าอาการแปลก ๆ ที่เราเป็นใช่หวัดธรรมดาหรือเปล่า ก็มีฟีเจอร์คัดกรองอาการพื้นฐาน หรือถ้าต้องการคำปรึกษาแบบละเอียดก็แชทกับเภสัชกรหรือวิดีโอคอลได้ทันที เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้การประเมินอาการและโต้ตอบรวดเร็ว
บางร้านอย่าง Boots, Watsons, หรือร้านค้าออนไลน์อย่าง Pharmaxpress มีบริการสั่งยาถึงบ้าน เหมาะกับยุคนี้ที่คนชอบความรวดเร็ว ไม่ต้องเดินฝ่าแดดหรือฝนไปร้านยา ยิ่งช่วงโควิดที่ผ่านมา ร้านขายยายุคใหม่คือผู้ช่วยชีวิตของใครหลายคน สั่งสินค้าสุขภาพ วิตามิน เวชภัณฑ์ หรือแม้แต่นัดหมายฉีดวัคซีนหรือรับยาโรคประจำตัวก็ทำผ่านออนไลน์ได้เลย ไม่ใช่แค่ในเมือง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น หรือภูเก็ตเท่านั้น ต่างจังหวัดก็เริ่มมีการบริการแบบนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วรู้ไหมว่า ปัจจุบันมีร้านขายยาในไทยมากกว่า 22,000 แห่ง แต่การซื้อผ่านออนไลน์โตเฉลี่ยปีละ 27% ซึ่งถือว่าสูงมาก เทียบกับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุผลเพราะคนไว้วางใจเรื่องความปลอดภัยในการรับยามากขึ้น จากการที่รัฐออกกฎเกณฑ์ควบคุมดีขึ้น เภสัชกรก็พร้อมให้คำแนะนำผ่านระบบดิจิทัล ร้านใหญ่ ๆ จะมี Call Center หรือ Chatbot คอยตอบคำถามกลางดึกด้วย ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
นวัตกรรมเปลี่ยนการจัดการร้านขายยาให้แอคทีฟขึ้นกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ร้านขายยาชั้นเดียวที่เคยน่าเบื่อ ตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางสุขภาพขนาดย่อม เพราะเทคโนโลยีเข้าไปเสริมการจัดการสินค้าคงคลังและบริการลูกค้า สมมติว่าเราเคยเห็นเภสัชกรต้องเช็คสต็อกยา จดรายละเอียดใส่กระดาษแล้วค่อยส่งต่อให้เจ้าของร้าน เดี๋ยวนี้มีระบบ POS (Point of Sale) และซอฟต์แวร์คุมสินค้าสำเร็จรูป ร้านสามารถรีเช็คสินค้า ตรวจวันหมดอายุ ส่งข้อมูลออนไลน์หาผู้จำหน่ายทันที จบในไม่กี่นาที
พวกระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เจ้าใหญ่ ๆ อย่าง SAP หรือ Oracle ก็เข้าถึงร้านขายยาไทยแล้ว ช่วยให้บริหารคลังยาหลายสาขา กำหนดเงื่อนไขลดราคาอัตโนมัติ พร้อมเชื่อมข้องานบัญชี ที่สำคัญคือช่วยป้องกันปัญหายาหมดหรือยาซ้ำซ้อน รู้ไหมว่าการใช้ซอฟต์แวร์นี้ช่วยลด error จากการจดบันทึกมือได้กว่า 80% และลดการสูญเสียยาโดยไม่จำเป็นได้ปีละหลายล้านบาทในธุรกิจร้านยาขนาดกลางขึ้นไป
สิ่งที่น่าตื่นเต้นอีกเรื่องคือระบบจ่ายยาอัตโนมัติ (Automated Dispensing System) ที่คลินิกหรือร้านยาบางแห่งในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่เริ่มนำมาใช้ เจ้าเครื่องนี้จะค้นหายา แยกยา และนับเม็ดยาให้เสร็จสรรพ ถูกต้องลดความผิดพลาดและมั่นใจว่ายาที่จ่ายมีความปลอดภัยสูง สะดวกทั้งเภสัชกรและลูกค้า เด็ก ๆ อย่างกฤตินก็ยังตื่นเต้นเวลามาร้านแล้วได้เห็นเครื่องเหล่านี้ทำงานอัตโนมัติ

เภสัชกรดิจิทัล: จากหลังเคาน์เตอร์สู่ที่ปรึกษาสุขภาพใกล้ตัว
เภสัชกรมุมมองใหม่ไม่ใช่แค่คนคอยจ่ายยา แต่เป็น Healthcare Coach ที่พร้อมให้คำแนะนำดูแลสุขภาพผ่านทุกช่องทางดิจิทัล จะช็อปผ่านมือถือก็ยังแชทถามข้อมูลยาได้ สงสัยว่ากินวิตามินอะไรดี เลือกกลุ่มวิตามินซีหรือซิงค์เสริมภูมิ ก็ตอบให้เร็ว ๆ หรือถ้าใครมีโรคประจำตัว ต้องใช้ยาหลายชนิดพร้อมกัน เภสัชกรดิจิทัลจะมีระบบช่วยประเมินโอกาสเกิดอันตรายจากการใช้ยาร่วมกัน (Drug Interaction Checker) แบบเรียลไทม์
เรื่องที่หลายคนยังไม่รู้คือการให้คำปรึกษาทางไกล (Telepharmacy) เป็นกระแสที่เติบโตมาก คนไข้ต่างจังหวัดหรือคนที่ติดบ้านก็แค่เปิดกล้องปรึกษา ไม่ต่างกับหาหมอที่โรงพยาบาล บริการนี้ปลอดภัยเพราะมีมาตรฐานกำกับจากกระทรวงสาธารณสุข แถมช่วงที่บ้านใครติดโควิด หรือมีเด็กเล็กติดเชื้อแต่อยากหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย เภสัชกรโทรหรือแชทมาอัพเดตยา-อาการแบบเป็นกันเองได้เลย สะดวกใจโดยไม่ต้องเดินทาง
- บริการเจาะจงกลุ่ม (Personalized Care) เช่น เตือนกินยาตรงเวลา ตรวจสุภาพเฉพาะแบบ หรือแจ้งเตือนยาของผู้สูงวัย
- ส่งยาสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังถึงบ้านในเวลาไม่นาน
- แนะนำการเลือกซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือสินค้าเพื่อสุขภาพผ่าน Video Call
- ตรวจเช็กค่ายา แบบออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อจริง
- การเก็บข้อมูลสุขภาพไร้กระดาษ เชื่อมโยงข้อมูลกับแพทย์ โรงพยาบาล และแล็บ เพื่อวางแผนการรักษาที่ชัดเจน
ข้อดีคือคนไทยส่วนมากเริ่มมั่นใจเทคโนโลยีการแพทย์ดิจิทัลมากขึ้น ราคายาและค่าบริการโปร่งใส คนใช้แอปติดตามสุขภาพกว่า 12 ล้านคนในปีที่แล้ว ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ผลก็คือ เภสัชกรต้องเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่ม เช่น การอ่านค่าข้อมูลสุขภาพที่แอปรวบรวมได้ หรือการสื่อสารเชิงวิดีโอให้ได้ผลกับทุกวัยได้อย่างเป็นธรรมชาติจริง ๆ
เทรนด์และความท้าทาย: ร้านขายยาแห่งอนาคตไปทางไหน?
เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงงานร้านขายยาเร็วแบบแพลตฟอร์มโซเชียล เจ้าไหนไม่ปรับตัวเสี่ยงจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะร้านขายยาเจอคู่แข่งทั้งจาก E-commerce รายใหญ่ ร้านยาดิจิทัลเต็มตัว และร้านแบบ Hybrid ที่มีทั้งหน้าร้านกับออนไลน์ครบวงจร ทำให้ธุรกิจแบบเดิมต้องคิดใหม่
มีข้อมูลจาก IQVIA ที่ระบุว่าคนไทยซื้อสินค้าสุขภาพผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะปี 2024 ยอดซื้อยาและอาหารเสริมผ่านออนไลน์พุ่งสูงขึ้นกว่า 36% เมื่อเทียบกับปีก่อน กลุ่มกำลังซื้อหลักคือวัยทำงานและผู้สูงวัยที่ต้องรับยารักษาโรคประจำตัวเป็นประจำ แต่ก็มีเด็กและวัยรุ่นเริ่มสนใจใช้ New Tech Health มากขึ้น ๆ โดยเฉพาะการตรวจค่าสุขภาพระยะไกลหรือสั่งยาโดยไม่ต้องไปคลินิก
แล้วเรื่องความปลอดภัย ยังคงเป็นประเด็นใหญ่ ร้านขายยาที่จะอยู่รอดต้องปรับใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Cybersecurity และต้องรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสุขภาพลูกค้าสูงสุด ไม่งั้นเสี่ยงถูก Hack หรือข้อมูลไปตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ แอปหรือเว็บร้านยาที่น่าเชื่อถือจะได้รับการรับรองจาก อย. หรือสธ. และต้องให้ลูกค้าควบคุมข้อมูลของตัวเองเสมอ
เทรนด์ที่มาพร้อมกันและมาแรงในปี 2025 คือ AI-Driven Pharmacy กับ Data Analytics วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพขนาดใหญ่ ปรับการจ่ายยาและคำแนะนำเฉพาะคนได้แม่นยำขึ้น ร้านขายยาใหญ่ ๆ หรือแฟรนไชส์กำลังทดลองใช้ VR (Virtual Reality) เพื่อจำลองสถานการณ์ให้ลูกค้าซ้อมรับคำแนะนำสุขภาพก่อนได้ของจริง เช่น สอนคนสูงอายุใช้เครื่องวัดความดันอัตโนมัติ หรือฝึกทักษะการดูแลตัวเองในบ้าน
ปี | จำนวนร้านขายยาในไทย | อัตราซื้อสินค้าออนไลน์ (%) | จำนวนผู้ใช้แอปสุขภาพ (ล้านคน) |
---|---|---|---|
2023 | 21,500 | 22.5 | 9.5 |
2024 | 22,000 | 27 | 12 |
2025 | 23,100 (ประเมิน) | 32 (ประเมิน) | 13+ (ประเมิน) |
สำหรับธุรกิจร้านขายยา ไม่ใช่ทุกเทคโนโลยีเหมาะกับทุกร้านเสมอไป บางร้านเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัว ผู้สูงวัย หรือชุมชน ยังต้องผสมผสานความใส่ใจและเทคโนโลยีอย่างลงตัว จุดแข็งที่เทคโนโลยีไม่มีวันแทนได้คือหัวใจบริการ เภสัชกรแนะนำด้วยความจริงใจ สื่อสารแบบคนใกล้ตัว และการติดตามลูกค้าต่อเนื่อง เพียงแต่ เทคโนโลยี จะกลายเป็นผู้ช่วยมือขวาสำคัญให้ร้านขายยารอดและเติบโต ในวันที่โลกหมุนเร็วกว่าเดิมมากแบบนี้
เขียนความคิดเห็น