วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจ ไม่ใช่แค่การตกแต่งผนัง แต่คือการนำความทรงจำของอดีตมาสร้างบรรยากาศในบ้านของคุณให้ลึกซึ้งและอบอุ่นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ลายดอกไม้หรือลายทางที่ดูเก่าๆ แต่มันคือการเลือกสิ่งที่บอกเล่าเรื่องราว ทั้งสีที่ซีดจางจากเวลา ลายพิมพ์ที่ทำด้วยมือ และพื้นผิวที่ดูเหมือนเคยผ่านการใช้งานมาแล้วหลายสิบปี
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจคืออะไร?
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจ เป็นวอลเปเปอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 1920 ถึง 1970 โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกาเหนือ ลายพิมพ์มักเป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันอย่างเป็นธรรมชาติ ลายทางแนวนอนหรือแนวตั้งแบบคลาสสิก หรือลายอิฐและไม้ที่ดูเหมือนผนังจริงที่ผ่านการขัดถูมาหลายครั้ง สีสันมักเป็นโทนอ่อนๆ เช่น สีเบจ น้ำตาลเข้ม ชมพูพุดตัน หรือสีเขียวมะกอก ซึ่งไม่ได้จัดจ้านแต่ให้ความรู้สึกสงบและมีชีวิตชีวา
วัสดุที่ใช้ก็แตกต่างจากวอลเปเปอร์สมัยใหม่ทั่วไป วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจมักทำจากกระดาษธรรมชาติหรือผ้าทอแท้ บางรุ่นยังมีการเคลือบด้วยสารที่ช่วยให้ผิวสัมผัสมีความหยาบเบาๆ คล้ายผนังเก่าที่ถูกทาสีซ้ำหลายรอบ ไม่ใช่พื้นผิวเรียบเงาแบบที่เราเห็นในห้างสรรพสินค้า
ทำไมวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจถึงกลับมาฮิตอีกครั้ง?
ในปี 2025 ผู้คนเริ่มเบื่อการตกแต่งแบบเรียบง่ายเกินไป หรือสีขาวล้วนที่ดูเหมือนห้องแสดงสินค้า วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจตอบโจทย์ความต้องการของคนที่อยากให้บ้านรู้สึกเหมือนเป็น “บ้านจริง” ไม่ใช่แค่ที่พัก
ผลสำรวจจากสถาบันการออกแบบภายในประเทศไทยในปี 2024 พบว่า 68% ของผู้ซื้อวอลเปเปอร์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเลือกลายวินเทจเพราะรู้สึกว่า “บ้านดูมีความเป็นตัวตน” มากกว่าการใช้สีทาเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจยังเหมาะกับบ้านเก่าที่ต้องการฟื้นฟู โดยไม่ต้องรื้อผนังหรือเปลี่ยนโครงสร้าง แค่เปลี่ยนผนังด้วยวอลเปเปอร์ลายโบราณ ก็ทำให้ห้องดูเหมือนเพิ่งตกแต่งใหม่จากยุค 1950 ได้ทันที
ลายวอลเปเปอร์วินเทจที่นิยมในปี 2025
- ลายดอกไม้ยุค 1920 - ดอกโบตั๋นหรือดอกกุหลาบขนาดใหญ่ ลายซ้อนทับแบบอังกฤษ ใช้สีเบจ-ชมพูอ่อน นิยมติดในห้องนอนหรือห้องรับแขก
- ลายทางแนวตั้ง - คล้ายผนังห้องพักในโรงแรมยุค 1940 ตัวลายมีความกว้าง 10-15 เซนติเมตร สีหลักคือสีเทาอ่อนหรือสีเขียวขี้ม้า
- ลายไม้และอิฐ - ไม่ใช่ลายพิมพ์ธรรมดา แต่เป็นลายที่เลียนแบบผนังอิฐที่ถูกทาสีขาวไว้แล้ว บางจุดสีหลุดลอกออกมาเล็กน้อย ให้ความรู้สึกเหมือนผนังเก่าของบ้านในชนบท
- ลายพื้นผิวแบบมือ - ลายที่ดูเหมือนถูกวาดด้วยมือ ไม่สม่ำเสมอ บางจุดมีรอยขีดข่วนเล็กๆ หรือจุดสีซีด ใช้ในห้องอ่านหนังสือหรือห้องทำงาน
อย่าลืมว่า ลายที่ดู “เก่า” จริงๆ ไม่ได้หมายถึงลายที่ดูแย่ แต่คือลายที่มีรายละเอียดเล็กๆ ที่เครื่องพิมพ์สมัยใหม่ไม่สามารถทำได้ อย่างรอยเล็กๆ ที่เกิดจากแผ่นพิมพ์ที่ไม่ได้เรียงกันพอดี หรือสีที่ซึมไม่เท่ากัน
วิธีเลือกวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจให้เหมาะกับบ้านคุณ
ไม่ใช่ทุกห้องจะเหมาะกับวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจ ถ้าเลือกผิด บ้านอาจดูเหมือนพิพิธภัณฑ์เก่าๆ แทนที่จะเป็นบ้านที่น่าอยู่
- เลือกตามขนาดห้อง - ห้องเล็กควรใช้ลายละเอียดและสีอ่อน เช่น ลายดอกไม้เล็กๆ สีครีม ห้องใหญ่ใช้ลายใหญ่และสีเข้มได้ เช่น ลายดอกโบตั๋นสีน้ำตาลเข้ม
- ดูแสงธรรมชาติ - ห้องที่มีแสงน้อย ควรเลือกสีอ่อนเพื่อให้ห้องดูสว่างขึ้น ห้องที่มีแสงจ้า สามารถใช้สีเข้มได้ เพราะจะช่วยลดความวูบวาบ
- จับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ - ถ้าบ้านมีเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า ควรเลือกวอลเปเปอร์ที่มีโทนสีใกล้เคียง เช่น ไม้สีน้ำตาลกับวอลเปเปอร์สีเบจ ไม่ควรใช้ลายสีสดๆ ที่ตัดกันเกินไป
- หลีกเลี่ยงการติดทั้งห้อง - วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจเหมาะกับการติดเฉพาะผนังหลัก เช่น ผนังที่อยู่ด้านหลังเตียงหรือผนังที่อยู่ด้านหลังโซฟา อย่าติดทั้ง 4 ผนัง เพราะจะทำให้ห้องดูอึดอัด
การติดตั้งวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
การติดวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจไม่ใช่แค่แปะให้เรียบ ต้องเข้าใจว่ามันคืองานศิลปะ
- เตรียมผนังให้เรียบและแห้งสนิท - ผนังที่มีรอยร้าวหรือเปียกจะทำให้วอลเปเปอร์ลอกง่าย ควรใช้สีกันซึมก่อนติด
- ใช้กาวเฉพาะสำหรับวอลเปเปอร์ผ้าหรือกระดาษธรรมชาติ - กาวทั่วไปจะทำให้วัสดุยุบตัวหรือบิดงอ
- ติดทีละแผ่นอย่างช้าๆ - อย่ารีบ ควรใช้ไม้กวาดพลาสติกค่อยๆ รีดอากาศออกจากใต้วอลเปเปอร์ ถ้ามีฟองอากาศเล็กๆ ให้ใช้เข็มเจาะเบาๆ แล้วกดให้ลมออก
- ตัดขอบด้วยมีดคมๆ - อย่าใช้มีดที่แหลมเกินไป เพราะอาจทำลายผนัง ควรใช้มีดตัดวอลเปเปอร์ที่มีใบโค้ง
- ติดในวันที่อากาศไม่ร้อนจัด - อุณหภูมิสูงเกิน 35 องศาจะทำให้กาวแห้งเร็วเกินไป วอลเปเปอร์จะย่นและบิด
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจกับวอลเปเปอร์สมัยใหม่ต่างกันอย่างไร?
| คุณสมบัติ | วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจ | วอลเปเปอร์สมัยใหม่ |
|---|---|---|
| วัสดุ | กระดาษธรรมชาติ ผ้าทอแท้ | พีวีซี หรือผ้าไม่ทอ |
| ลายพิมพ์ | ลายซ้อนทับ ไม่สม่ำเสมอ ดูเหมือนทำด้วยมือ | ลายสม่ำเสมอ ซ้ำกันทุกแผ่น |
| สี | โทนอ่อน ซีดจาง ให้ความรู้สึกเก่า | สีสด จัดจ้าน ตัดกันชัด |
| อายุการใช้งาน | 10-15 ปี (ถ้าดูแลดี) | 5-8 ปี (เสื่อมง่ายเมื่อโดนแสงแดด) |
| ราคาต่อตารางเมตร | 800-2,500 บาท | 300-1,200 บาท |
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจเหมาะกับใคร?
ถ้าคุณเป็นคนที่:
- ชอบของเก่า แต่ไม่ใช่ของเก่าที่ดูสกปรก
- ต้องการให้บ้านดูมี “ประวัติศาสตร์” แม้จะเพิ่งซื้อมาไม่นาน
- ไม่ชอบการตกแต่งที่ดูเหมือนกันหมดในทุกบ้าน
- ชอบรายละเอียดเล็กๆ ที่คนอื่นอาจมองข้าม
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจคือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบ
แต่ถ้าคุณชอบความเรียบง่าย สะอาดตา หรือต้องการเปลี่ยนสไตล์บ้านบ่อยๆ วอลเปเปอร์สไตล์นี้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี เพราะมันต้องการการดูแลและไม่เหมาะกับการเปลี่ยนบ่อย
วิธีดูแลวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจให้อยู่นาน
- ใช้แปรงนุ่มหรือเครื่องดูดฝุ่นแบบเบาๆ ทำความสะอาดผิวผนังทุก 2-3 เดือน
- ห้ามใช้น้ำหรือสารทำความสะอาดที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้สีซีด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง เช่น วางของหนักบนผนังหรือติดสติกเกอร์
- ใช้พัดลมระบายอากาศในห้องที่มีวอลเปเปอร์ เพื่อป้องกันความชื้นสะสม
- ถ้ามีรอยเปื้อนเล็กน้อย ให้ใช้ขนมปังปิ้งแห้งๆ ค่อยๆ ถูเบาๆ - วิธีนี้ได้ผลดีกับวอลเปเปอร์ผ้าธรรมชาติ
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจสามารถติดในห้องน้ำได้ไหม?
ไม่แนะนำให้ติดในห้องน้ำที่มีความชื้นสูงตลอดเวลา เพราะวัสดุธรรมชาติจะดูดซับความชื้นและบวม แต่ถ้าห้องน้ำมีระบบระบายอากาศดี และเป็นห้องน้ำที่ใช้น้อย เช่น ห้องน้ำแข็ง หรือห้องน้ำในห้องรับแขก สามารถติดได้ แต่ต้องเลือกแบบที่เคลือบผิวแบบกันน้ำเบาๆ อย่างเช่น วอลเปเปอร์ผ้าทอที่มีการเคลือบพิเศษจากผู้ผลิต
ราคาวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจแพงแค่ไหน?
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 800 บาทต่อตารางเมตรสำหรับรุ่นทั่วไป รุ่นที่นำเข้าจากยุโรปหรือมีลายพิมพ์ดั้งเดิมจากยุค 1950 อาจสูงถึง 2,500 บาทต่อตารางเมตร แต่ราคาสูงเพราะวัสดุและกระบวนการผลิตที่ใช้แรงงานมากกว่าการพิมพ์ด้วยเครื่องอัตโนมัติ
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจสามารถติดทับวอลเปเปอร์เก่าได้ไหม?
ไม่ควรติดทับวอลเปเปอร์เก่า เพราะวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจมีน้ำหนักมากกว่า และอาจทำให้ผนังบวมหรือลอกออกง่าย ควรลบวอลเปเปอร์เก่าออกให้หมดก่อน แล้วทาสีกันซึมหรือกาวรองพื้นเฉพาะสำหรับวอลเปเปอร์ธรรมชาติ
มีแบรนด์วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจที่น่าเชื่อถือในไทยไหม?
ในไทยมีแบรนด์ที่นำเข้าวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจจากยุโรป เช่น แบรนด์ Graham & Brown, Sandberg และ Romo บางร้านในกรุงเทพฯ เช่น The Wallpaper Studio และ House of Textiles ขายของแท้และมีบริการติดตั้งให้ด้วย ควรเลือกร้านที่มีตัวอย่างจริงให้ดู เพราะลายวินเทจแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันมาก
วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจเหมาะกับบ้านสไตล์ไหนบ้าง?
เหมาะกับบ้านสไตล์อังกฤษคลาสสิก บ้านสไตล์มีเดียเตอร์ บ้านไม้เก่า หรือบ้านที่ต้องการผสมผสานความเก่ากับความทันสมัย เช่น บ้านสไตล์มินิมอลที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า หรือบ้านคอนกรีตที่มีเฟอร์นิเจอร์ผ้าลินิน วอลเปเปอร์สไตล์วินเทจช่วยเติมความอบอุ่นให้กับพื้นที่ที่ดูเย็นเกินไป
ขั้นตอนสุดท้าย: ลองก่อนตัดสินใจ
ก่อนตัดสินใจซื้อวอลเปเปอร์สไตล์วินเทจทั้งห้อง ให้ซื้อตัวอย่างขนาดเล็กมาลองติดบนผนังจริงสัก 1 ตารางเมตร ดูในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน - เช้า กลางวัน และเย็น - เพราะแสงจะเปลี่ยนสีของวอลเปเปอร์อย่างมาก
ถ้าคุณรู้สึกว่ามัน “ดูเหมือนบ้านของคุณเอง” ไม่ใช่แค่ “ดูดี” - นั่นแหละคือคำตอบที่ถูกต้อง
เขียนความคิดเห็น